นนทบุรี, 30 ต.ค. 2562 – บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“THCOM”) ผู้ให้บริการดาวเทียมไทย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2562 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562

บริษัทรายงานรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาสที่ 3/2562 รวมทั้งสิ้น 1,188 ล้านบาท ลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2562 เนื่องจากการลดลงของลูกค้าบรอดแบนด์ อย่างไรก็ตามอัตราการให้บริการและรายได้จากลูกค้าบรอดแคสท์เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 1.2% จากการขายที่เพิ่มขึ้น

บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิสำหรับไตรมาส 3/2562 ที่ 113 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2562 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 135 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบจากรายการพิเศษ อาทิ ผลขาดทุนจากการขายเงินลงทุน และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทจะมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับ
ไตรมาส 3/2562 ที่ 59 ล้านบาท

ไทยคมมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในไตรมาสที่ 4/2562 เป็นจำนวน 2,275 ล้านบาทที่อัตราดอกเบี้ย 4.28% ซึ่งการชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าวจะช่วยบรรเทาภาระดอกเบี้ยของบริษัทในปีหน้าและปีถัดๆไป

สำหรับอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของดาวเทียม ณ สิ้นไตรมาส 3/2562 อัตราการใช้บริการดาวเทียมแบบทั่วไปซึ่งประกอบด้วยดาวเทียมไทยคม 5, 6, 7 และ 8 อยู่ที่ระดับ 54% เพิ่มขึ้นจาก 53% ณ สิ้นไตรมาส 2/2562 และสำหรับดาวเทียมบรอดแบนด์หรือดาวเทียมไทยคม 4 มีอัตราการใช้บริการอยู่ที่ระดับ 23% ลดลงจาก 24% ณ สิ้นไตรมาส 2/2562

นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยคม กล่าวว่า “ในช่วงไตรมาสที่ 3/2562 ไทยคมได้มีการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท โดยจำหน่ายเงินลงทุนของ บริษัท แคมโบเดียน ดีทีวี เน็ตเวิร์ค จำกัด (CDN) ออกไป และมุ่งเน้นการขายและให้บริการธุรกิจหลักหรือธุรกิจดาวเทียม ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่ทำให้บริษัทสามารถขยายศักยภาพการให้บริการจากอวกาศสู่ภาคพื้นดินและทะเล (Space-Air-Ground-Maritime Smart Solutions provider) นอกจากนี้ ไทยคมได้ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท รัสเซีย แซทเทลไลท์ คอมมิวนิเคชั่นส์ (อาร์เอสซีซี) ผู้นำด้านดาวเทียมแห่งรัสเซีย ในการร่วมพัฒนาโครงข่ายโรมมิ่งเพื่อการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทางทะเล ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของการให้บริการ “นาวา” ให้กว้างขวางขึ้น”

ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) ในประเทศลาว มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ไม่นับรวม fixed line) ในระบบรวมทั้งสิ้น 1.43 ล้านราย และยังคงมีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นประมาณ 56.3% ของตลาดรวม